DRAGON BALL: Sparking! ZERO มาพร้อมกับตัวละครที่เล่นได้ถึง 182 ตัวในชุดแรก!
บทความนี้จะแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการต่อสู้และรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเหล่าตัวละครที่คุณจะได้พบใน DRAGON BALL: Sparking! ZERO
นอกเหนือจากนั้น เราจะได้รู้จักกับกลยุทธ์พิเศษที่เกี่ยวข้องกับเหล่าตัวละครในเกม เช่น ช่วงเวลา Quick Time Event การเปลี่ยนตัว การแปลงร่าง และการรวมร่างอีกด้วย
I. ประเภทตัวละคร
คุณสามารถสนุกกับรูปแบบการเล่นเกมที่แตกต่างกันไปใน DRAGON BALL: Sparking! ZERO ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและความถนัดในการต่อสู้ของตัวละครจากซีรีส์ต้นฉบับ รูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาจะได้รับอิทธิพลโดยตรงจากค่าสถานะต่างๆ ขนาดตัว และร่างของตัวละคร
มาดูตัวละครประเภทต่างๆ ที่คุณจะสามารถเล่นได้ในเกมนี้กันเลย
สายพลัง
ตัวละครเหล่านี้เน้นต่อสู้ด้วยการโจมตีหนักและระเบิดพลังรุนแรง แม้ว่าอาจจะมีความเร็วไม่มากนัก แต่จะชดเชยด้วยพลังดั้งเดิมของพวกเขา ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงให้แก่คู่ต่อสู้ได้ บางตัวละครในสายนี้จะโดดเด่นด้านความแข็งแกร่งถึงขั้นที่ไม่สะทกสะท้านเมื่อถูกโจมตีด้วยกระสุนพลังจิตหรือจู่โจมสแมช จากสถิติของพวกเขาแล้ว ตัวละครประเภทนี้มีความถนัด 2 รูปแบบ ได้แก่ การโจมตีกายภาพและระเบิดพลัง การโจมตีกายภาพจะช่วยเพิ่มความเสียหายด้วยคอมโบรัชและการต่อสู้ระยะประชิด ส่วนระเบิดพลังเป็นวิธีการที่ตัวละครสามารถเน้นสร้างความเสียหายด้วยระเบิดพลังและกระสุนพลังจิต
สายความเร็ว
ในทางตรงกันข้าม ตัวละครบางตัวใช้กลยุทธ์การโจมตีโดยอาศัยความรวดเร็ว ซึ่งเป็นการจู่โจมที่ต่อเนื่องยาวนานจนยากที่จะขัดจังหวะ แม้บางการโจมตีจะเบากว่า แต่คู่ต่อสู้ก็จะจับตัวคุณได้ยากเนื่องจากคุณเคลื่อนไหวอย่างว่องไวไปทั่วแผนที่ ทั้งยังทำคอมโบด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง การหลบหลีกคอมโบรัชของตัวละครที่ใช้ความรวดเร็วนั้นเป็นงานหนักสำหรับคู่ต่อสู้ เมื่อเทียบกับตัวละครที่ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่นี้
สายกระสุนพลังจิต
ตัวละครบางตัวเชี่ยวชาญการใช้กระสุนพลังจิต พวกเขาเป็นเลิศในรูปแบบการต่อสู้ที่สามารถคุมเกมและเว้นระยะห่างจากคู่ต่อสู้ ทั้งยังมีความสามารถในการยิงระเบิดพลังอย่างต่อเนื่องโดยใช้พลังงานเพียงขั้นต่ำสุดเท่านั้น เบจิต้าคือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าเขาใช้การโจมตีด้วยกระสุนพลังจิตที่ทรงพลังและรวดเร็ว ตัวละครอื่นๆ ได้แก่ โกคูผู้สามารถปล่อยพลังคลื่นเต่า และฟรีเซอร์ผู้สามารถยิงเดธบีมได้อย่างแม่นยำ
สายร่างยักษ์
เนื่องจากมีร่างที่ยักษ์ใหญ่ ตัวละครเหล่านี้จึงเคลื่อนไหวช้ากว่าตัวอื่น แต่การโจมตีของพวกเขาจะยิ่งทรงพลังถึงขนาดซัดให้คู่ต่อสู้ปลิวไปไกลได้
ข้อดีที่สุดของตัวละครเหล่านี้คือจะไม่สะทกสะท้านต่อท่าทุ่มและระเบิดพลังบางชนิด คุณจึงสามารถใช้ประโยชน์จากรูปลักษณ์ที่มหึมานี้ในการโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยระยะการโจมตีที่กว้างกว่า แต่ขนาดมหึมาและพลังมหาศาลย่อมต้องประสบกับปัญหาบ้างเป็นบางครั้ง เช่น เวลาโจมตีคู่ต่อสู้ที่ตัวเล็กกว่า ซึ่งอาจจะหลบหลีกการโจมตีได้ง่ายขึ้น
มนุษย์ดัดแปลง
มนุษย์ดัดแปลงเป็นมนุษย์เทียมที่ไม่มีพลังจิต พวกเขาไม่สามารถชาร์จเกจค่าพลัง Ki ได้ เว้นแต่พลังงานของพวกเขาจะถึงระดับสูงสุด เกจค่าพลัง Ki จะชาร์จอยู่ตลอดเวลาที่มีการโจมตีกายภาพ และจะหยุดชาร์จเมื่อเกจเต็ม
หากต้องการนำคุณสมบัตินี้มาใช้เป็นกลยุทธ์ ให้โจมตีด้วยคอมโบรัชอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ชาร์จค่าพลัง Ki มนุษย์ดัดแปลงบางตัวมีความสามารถในการดูดซับกระสุนพลังจิตและระเบิดพลังบางชนิดขณะอ่านความเคลื่อนไหวขั้นซูเปอร์ ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จเกจได้เร็วยิ่งขึ้น
ตัวละครที่สามารถชาร์จอัตโนมัติจนเต็มได้คือ มนุษย์ดัดแปลงหมายเลข 13, 16, 17 และ 18 ในทางตรงกันข้าม มนุษย์ดัดแปลงหมายเลข 19 และ ดร.เกโร่ สามารถชาร์จค่าพลัง Ki ได้มากกว่าด้วยการโจมตีกายภาพ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถดูดซับกระสุนพลังจิตและระเบิดคลื่นพลังจิตบางประเภทจากคู่ต่อสู้ได้ด้วย
II. รูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์
ลองเล่นเป็นตัวละครที่มีรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครใน DRAGON BALL: Sparking! ZERO เกมนี้จำลองคุณสมบัติบางอย่างตามซีรีส์ต้นฉบับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ความสามารถ รูปร่างหน้าตา ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีผลต่อการเล่นเกมด้วยตัวละครเหล่านี้
ดาบ
คุณสามารถสนุกกับรูปแบบการต่อสู้หลากหลายวิธีใน DRAGON BALL: Sparking! ZERO ซึ่งรวมถึงการต่อสู้ด้วยดาบ นักดาบผู้เป็นสัญลักษณ์จากซีรีส์จะใช้ดาบในการทำคอมโบต่างๆ ทั้งจู่โจมรัช และระเบิดพลัง เพื่อจำลองท่าต่อสู้อันเลื่องชื่อของพวกเขาให้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีตัวละครที่ใช้ดาบในการเปิดใช้ระเบิดพลัง ซึ่งจะแทงทะลุการตั้งการ์ดป้องกันด้วยระเบิดพลังสแมช
รัศมีขั้นซูเปอร์
ตัวละครบางตัว เช่น ร่างที่แกร่งที่สุดจาก DRAGON BALL Super ใน DRAGON BALL: Sparking! ZERO จะปรากฏตัวพร้อมกับรัศมีห่อหุ้มตัวอยู่ตลอดเวลา
พลังของพวกเขาเอ่อล้นจนส่งผลให้ได้ภาพพลังจิตที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง
สเกาเตอร์
สเกาเตอร์เป็นหนึ่งไอเทมที่เป็นสัญลักษณ์ของซีรีส์ DRAGON BALL โดยภายในเกมนี้คุณจะสามารถเลือกตัวละคร ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากกองทัพฟรีเซอร์ และติดตั้งสเกาเตอร์เป็นเครื่องประดับ โดยมันจะช่วยเพิ่มรัศมีการค้นหาเป็นอย่างมากระหว่างที่ติดตั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสเกาเตอร์นั้นๆ
ด้วยสเกาเตอร์อันทรงคุณค่านี้ ผู้เล่นสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียการติดตามคู่ต่อสู้เป็นเวลานานเกินไป! แต่จำไว้ให้ดีว่าความเสียหายที่ได้รับระหว่างการต่อสู้อาจทำให้สเกาเตอร์พังได้เช่นกัน เมื่อสเกาเตอร์ถูกทำลาย ผู้เล่นจะค้นหาตำแหน่งคู่ต่อสู้ได้ยากขึ้น เนื่องจากจะหายไปจากสายตา
ตัวละครบนพื้นดิน
ตัวละครบางตัวไม่สามารถบินได้ เช่นเดียวกับในซีรีส์ DRAGON BALL เมื่อกระโดดขึ้นจะค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้นเนื่องจากไม่สามารถคงอยู่กลางอากาศเป็นเวลานานได้เมื่อเทียบกับตัวละครที่บินได้ ในทางกลับกัน มีเพียงตัวละครเหล่านี้เท่านั้นที่สามารถวิ่งไปบนพื้นดินได้ ดังนั้นจึงควรใช้ประโยชน์จากทักษะของพวกเขาโดยพยายามรักษาระดับการต่อสู้ให้อยู่บนพื้นดิน!
III. กลไกพิเศษ
DRAGON BALL: Sparking! ZERO เปิดโอกาสให้คุณใช้กลไกพิเศษหลายรูปแบบที่อยู่นอกหมวดหมู่คอมโบหรือระเบิดพลัง รูปแบบการเล่นค่อนข้างหลากหลาย มีการแปลงร่างและลำดับ QTE หลากหลายรูปแบบ มาดูกันเลยว่ามีแบบไหนกันบ้าง และมันจะช่วยให้ตัวละครโดดเด่นขึ้นระหว่างการต่อสู้ได้อย่างไร
การแปลงร่าง
เลือกร่างที่ต้องการแปลงแล้วกด ↑ เพื่อเปิด "แผงแปลงร่าง" จากนั้นเลือกโดยการกด [☐/X] หรือ [△/Y] หรือ [X/A] หรือ [⭘/B] เพื่อแปลงร่างระหว่างการต่อสู้ โดยจะลดค่าทักษะที่สะสมไว้ เมื่อแปลงร่างแล้ว จะยกระดับค่าสถานะต่างๆ ของตัวละคร
การรวมร่าง
ใช้ได้เฉพาะเมื่อมีตัวละครที่สามารถรวมร่างได้อยู่ในทีมครบทั้ง 2 ตัว รวมร่างเป็นตัวละครที่แสดงอยู่ใน "แผงรวมร่าง" ได้โดยการกด ↑ + L1 (R1) เพื่อเปลี่ยน "แผงแปลงร่าง" เป็น "แผงรวมร่าง" จากนั้นเลือกโดยการกด [☐/X] หรือ [△/Y] หรือ [X/A] หรือ [⭘/B]
เมื่อรวมร่างแล้ว ตัวละครทั้งสองจะหายไปจากหน้าจอสมาชิกในทีม และจะเปลี่ยนเป็นตัวละครที่รวมร่างแล้วเพียงตัวเดียวเท่านั้น จำไว้ให้ดีว่าหลังจากที่รวมร่างแล้วจะไม่สามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้
การเปลี่ยนตัว
สามารถเปลี่ยนตัวได้เมื่อไอคอนเปลี่ยนตัวส่องสว่าง กด ← เพื่อแสดง "แผงเปลี่ยนตัว" จากนั้นเลือกตัวละครที่ต้องการเปลี่ยนตัวโดยการกด [☐/X] หรือ [△/Y] หรือ [X/A] หรือ [⭘/B]
กลไกนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบอื่นๆ ได้ เช่น "เปลี่ยนตัวไล่ล่า" ในการต่อสู้แบบทีม ให้เปลี่ยนตัวระหว่างโจมตีเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวละครที่เปลี่ยนเข้ามาโจมตีซ้ำต่อ ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเปลี่ยนสมาชิกในทีมออกพร้อมกับเดินหน้าโจมตีต่ออย่างราบรื่น
โหมด Sparking!
หากต้องการเข้าสู่โหมด Sparking! จะต้องชาร์จเกจค่าพลัง Ki จนเต็มหรือจนล้น และจำเป็นต้องใช้ค่าทักษะที่สะสมไว้ 1 หน่วยในการเข้าสู่โหมด Sparking!
โหมด Sparking! ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับความสามารถของตัวละครเท่านั้น แต่ยังให้ผลดีอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยให้ยิงระเบิดพลังจิตได้โดยไม่ต้องใช้ค่าพลัง Ki
หากใช้ท่าต่อสู้ต่างๆ เช่น "รัชดุเดือด" ขณะอยู่ในโหมด Sparking! จะสามารถ "จู่โจมรัช" อย่างต่อเนื่องจนกว่าเกจจะหมดลง เป็นเสมือนเกราะป้องกันการโจมตีกายภาพไปในตัว
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ "ไฮเปอร์สแมช" ซึ่งเป็นท่าทำลายการป้องกันของคู่ต่อสู้ หรือ "เคลื่อนที่ความเร็วสูงขั้นซูเปอร์" โดยจะลดเกจ Sparking! เป็นบางส่วน เพื่อช่วยให้สามารถหายตัวและเคลื่อนที่ได้ในทันที
อีโมต
สามารถใช้อีโมตที่แสดงอยู่บน "แผงอีโมต" โดยการกด ➡ และกำหนดให้กับตัวละครที่ต้องการใช้อีโมตนั้นๆ ก่อนการต่อสู้ ใช้อีโมตกับตัวละครตัวโปรดของคุณเพื่อแสดงท่าทางสุดเท่กันเลย!
QTE Quick Time Event
เมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายใช้ท่าต่อสู้แบบเดียวกันพร้อมกัน จะเกิดเป็นช่วงเวลา QTE (Quick Time Event) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยผู้ชนะจะได้เปรียบในการต่อสู้ โดยสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มเติมและซัดคู่ต่อสู้ให้ปลิวไปได้ Quick Time Event ช่วยให้การต่อสู้ของคุณมีรูปแบบที่ไม่ซ้ำใครและเดาทางยากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการต่อสู้ อย่าลืมนำการต่อสู้รูปแบบนี้มาใช้เป็นกลยุทธ์ โดยใช้เป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้เพื่อทำให้คู่ต่อสู้เสียจังหวะ
"สปีดอิมแพ็ค" คือการแข่งกันโดยการปะทะและฟาดสวนกลับกันของทั้งสองฝ่าย ใช้สปีดอิมแพ็คได้โดยปะทะกับคู่ต่อสู้ด้วย "ดราก้อนแดช" [R2/RT] + [X/A] (*สปีดอิมแพ็คจะเกิดขึ้นเมื่อกระสุนพลังจิตรัชปะทะกับดราก้อนแดชเช่นเดียวกัน)
"อิมแพ็คแอ็กชัน" นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก
ส่วนแรกคือส่วนการโจมตีนัดเดียว ทั้งสองฝ่ายจะต้องกดปุ่มตรงตามที่ปรากฏบนหน้าจอ เมื่อรู้แพ้รู้ชนะในส่วนโจมตีนัดเดียวแล้ว จะเชื่อมต่อไปยังส่วนโจมตีต่อเนื่อง
สำหรับส่วนโจมตีต่อเนื่อง ท้ายที่สุดแล้ว ค่าความเสียหายจะวัดจากจำนวนการกดปุ่มของทั้งสองฝ่าย เมื่อส่วนโจมตีต่อเนื่องสิ้นสุดลง ผู้ชนะในส่วนโจมตีนัดเดียว จะซัดผู้แพ้ให้ปลิวไป และสปีดอิมแพ็คจะสิ้นสุดลง
"พาวเวอร์อิมแพ็ค" จะเกิดขึ้นเมื่อตัวละครทั้งสองฝ่ายใช้ท่าทุ่ม [R1/RB]+ [☐/X] พร้อมกัน อิมแพ็คแอ็กชันประเภทนี้เน้นการวัดความแข็งแกร่งจากการกดปุ่มที่กำหนดค้างเอาไว้
ระหว่างที่ปะทะกัน จะมีเกจปรากฏขึ้น ผู้เล่นจะต้องปรับระดับการกดปุ่มไม่ให้เกินตำแหน่งที่เข็มชี้ ท้ายที่สุดจะวัดกันว่าปริมาณเกจของฝ่ายไหนใกล้เคียงตำแหน่งที่เข็มชี้มากกว่า ผู้ที่ใกล้กว่าจะเป็นผู้ชนะ
"ครัชอิมแพ็ค" จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวละครทั้งสองฝ่ายใช้การก้าว [X/A] พร้อมกัน เมื่อครัชอิมแพ็คเริ่มต้นขึ้น จะสุ่มกำหนดออกเป็น "ฝ่ายโจมตี" และ "ฝ่ายป้องกัน" โดยปุ่มที่ต้องกดสำหรับ "ฝ่ายโจมตี" และ "ฝ่ายป้องกัน" จะแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้เล่นจะต้องกดตามคำสั่งที่แสดงบนหน้าจอของแต่ละฝ่าย หากฝ่ายโจมตีเป็นผู้ชนะในการรุกและรับ จะสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายป้องกัน หากฝ่ายป้องกันชนะ จะป้องกันการโจมตีได้ การแข่งจะเกิดซ้ำๆ สูงสุด 3 รอบ โดยฝ่ายที่ชนะได้ก่อน 2 รอบ จะโจมตีคู่ต่อสู้ให้ปลิวไปได้
"แบลสต์อิมแพ็ค" คืออิมแพ็คแอ็กชันที่เกิดขึ้นเมื่อระเบิดพลังประเภทยิงปะทะกัน เมื่อแบลสต์อิมแพ็คเริ่มต้นขึ้น จะมีมิเตอร์ปรากฏบนหน้าจอ ซึ่งเกจทางด้านขวาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ การกดปุ่มจะเปลี่ยนเกจเป็นพลังสำหรับระเบิดพลัง ซึ่งจะเป็นตัววัดว่าฝ่ายไหนสามารถระเบิดพลังได้สูงกว่า ไม่เพียงแต่การกดปุ่มเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ยังสามารถเพิ่มพลังได้ด้วยการกดปุ่มต่อเนื่องอย่างรวดเร็วด้วย
ผู้ชนะจะสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงให้แก่คู่ต่อสู้ได้
DRAGON BALL: Sparking! ZERO วางจำหน่ายวันที่ 11 ตุลาคม 2024 บนแพลตฟอร์ม PlayStation®5, Xbox Series X|S และ PC ผ่านทาง Steam® ผู้สั่งซื้อเกมเวอร์ชันดาวน์โหลด (ดิจิทัล) และ Ultimate Edition ล่วงหน้า จะได้รับสิทธิเริ่มเล่นเกมล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม เวลา 5.00 น. (เวลาประเทศไทย) นอกจากนี้ ผู้สั่งซื้อเกมล่วงหน้ายังจะได้รับซุนโกคู (มินิ) จากอนิเมะภาค DRAGON BALL DAIMA ที่กำลังจะเริ่มต้นแพร่ภาพในไม่ช้า เป็นตัวละครที่เล่นได้ตัวใหม่
โปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากเราขณะรอวันวางจำหน่าย DRAGON BALL: Sparking! ZERO